เมื่อนั้น |
ท้าวราพณาสูรใจหาญ |
ครั้นเสร็จยกฉัตรชัชวาล
|
พระยามารเสด็จลีลา |
เข้าที่ชำระสระสรง |
ทรงสุคนธ์ปนปรุงด้วยบุปผา |
สอดใส่สนับเพลาอลงการ์ |
ภูษาเชิงทองท้องพัน |
ชายไหวชายแครงเครือมาศ |
ฉลององค์พื้นตาดสังเวียนคั่น |
ตาบทิศทับทรวงสังวาลวรรณ |
ทองกรกุดั่นพาหุรัด |
สอดมหาธำมรงค์ประดับเพชร |
ร่วงรุ้งเรือนเก็จกาบสะบัด |
ทรงมงกุฎแก้วกรรเจียกทัด |
ยี่สิบหัตถ์กุมเพทสาตรา |
เสร็จแล้วชวนองค์อัคเรศ |
ดวงเนตรพี่ยอดเสน่หา |
จงไปดูศึกที่ยกมา |
ให้เป็นขวัญตานางเทวี |
ตรัสพลางก็พากันลีลาศ |
จากอาสน์สุวรรณเรืองศรี |
ฝ่ายหมู่อนงค์นารี |
จรลีตามองค์พระยามาร |
ครั้นถึงจึ่งขึ้นฉัตรแก้ว |
อันเพริศแพร้วดั่งดวงสุรีย์ฉาน |
พร้อมทั้งสนมบริวาร |
แลดูทหารพระรามา |
เมื่อนั้น
|
นางมณโฑเยาวยอดเสน่หา
|
พินิจพิศดูโยธา |
เห็นหมู่วานรชาญฉกรรจ์ |
คือศรีสุครีพชมพูพาน
|
หนุมานองคตแข็งขัน |
พวกพลเยียดยัดแจจัน |
เฝ้าพระทรงธรรม์สี่กร |
อันทหารทั้งสองนคเรศ |
เลื่องชื่อลือเดชชาญสมร |
ล้วนเทวามาเป็นพานร |
อาจช้อนพิภพเมืองอินทร์ |
ถึงจะพลิกสี่มหาสุธาธาร |
ทั่วทุกจักรวาลก็ได้สิ้น |
ตกใจดั่งจะแทรกแผ่นดิน |
ผินพักตร์มาทูลพระภัสดา |
อันมนุษย์พี่น้องสององค์ |
สุริย์วงศ์จักรพรรดินาถา |
หน่อท้าวทศรถกษัตรา |
นัดดาอัชบาลฤทธิรอน |
ทรงเดชเลิศลบพิภพไหว |
กล้าหาญชาญชัยด้วยแสงศร |
เป็นปิ่นอยุธยาพระนคร
|
ภูธรคิดดูให้จงดี |
อ่านหน้าที่
๑ |
|
|
|