เมื่อนั้น |
พระทรงภพลบโลกทุกสถาน |
ได้ฟังพิเภกโหราจารย์
|
ว่าขุนมารมันยกฉัตรชัย |
จึ่งมีพระราชบัญชา |
แก่วานรโยธาน้อยใหญ่ |
ใครจะอาสามาดอาจใจ |
เข้าไปหักฉัตรทศกัณฐ์ |
บัดนั้น |
สุครีพลูกพระสุริย์ฉัน |
ได้ฟังโองการพระทรงธรรม์ |
บังคมคัลสนองพระบัญชา |
ครั้งก่อนคำแหงวายุบุตร |
ผู้มีฤทธิรุทรแกล้วกล้า |
ไปถวายธำมรงค์อลงการ์ |
ในเบื้องบาทาพระเทวี |
องคตก็ได้สื่อสาร |
หักหาญฆ่าสี่ยักษี |
ตัวข้าพระบาทผู้ภักดี |
ครั้งนี้จะอาสาไป |
ทำลายฉัตรท้าวทศพักตร์ |
ให้หักยับลงจงได้ |
พระองค์ผู้ทรงภพไตร |
อย่าเคืองใต้เบื้องพระบาทา |
เมื่อนั้น
|
พระจักรรัตน์แก้วนาถา |
ได้ฟังลูกพระสุริยา |
ผ่านฟ้าชื่นชมยินดี |
จึ่งกล่าววาจาอันสุนทร |
อวยพรประสาทกระบี่ศรี |
ตัวท่านผู้เรืองฤทธี |
จงไปสวัสดีมีชัย |
บัดนั้น
|
พระยาสุครีพทหารใหญ่ |
รับพรพระตรีภูวไนย |
บังคมไหว้แล้วรีบออกมา |
ทำอำนาจผาดแผลงสำแดงฤทธ์ |
เสียงสนั่นครรชิตทุกทิศา |
เหาะขึ้นยังพื้นเมฆา |
รีบไปดั่งวายุพัดพาน |
ลัดนิ้วมือเดียวก็มาถึง |
ซึ่งกรุงลงการาชฐาน |
แลเห็นฉัตรแก้วสุรกานต์ |
สูงตระหง่านอยู่กลางธานี |
ท้าวทศเศียรขุนยักษ์ |
กับองค์อัคเรศมเหสี |
ทั้งฝูงสนมนารี
|
อยู่ที่ชั้นฉัตรรัตนา |
อันในแผ่นพื้นสุธาดล |
ไว้พลพิทักษ์รักษา |
จึ่งคิดถวิลจินดา |
แม้นว่าตัวกูจะเข้าไป |
ก็จะต้องต่อตีด้วยกุมภัณฑ์ |
เกิดรบพุ่งกันเป็นศึกใหญ่ |
จำจะบังเนตรมันไว้ |
อย่าให้แลเห็นอินทรีย์ |
จึ่งจะไม่เสียราชการ |
องค์พระอวตารเรืองศรี |
คิดแล้วร่ายเวทอันฤทธี |
ขุนกระบี่นิมิตกายา |
ใหญ่เท่าบรมพรหมาณฑ์
|
สูงตระหง่านเงื้อมง้ำเวหา |
ลงยังพ่างพื้นพสุธา |
ด้วยกำลังศักดาเกรียงไกร |
อันหมู่อสุรยักษี |
จะเห็นอินทรีย์ก็หาไม่ |
แกว่งพระขรรค์แก้วแววไว |
เดินไปตามแถวมรคา |
อ่านหน้าที่
๓ |
|
|
|