บัดนั้น |
ฝ่ายพระเสื้อเมืองยักษา |
แลเห็นวานรผู้ศักดา |
กายาเท่าเขาอัศกรรณ |
สูงเยี่ยมเทียมพื้นอัมพร |
สำแดงฤทธิรอนแข็งขัน |
ความกลัวปิ้มม้วยชีวัน |
ตัวสั่นไม่เป็นสมประดี |
สองมือปิดสองนัยนา |
ไม่อาจจะดูหน้ากระบี่ศรี |
หนีออกจากราชธานี |
ไปยังที่เนินจักรวาล |
บัดนั้น |
สุครีพฤทธิไกรใจหาญ |
ครั้นถึงฉัตรแก้วสุรกานต์ |
ยืนทะยานตรงพักตร์อสุรา |
แล้วจึ่งคลายวิทยามนต์ |
สำแดงฤทธิรณแกล้วกล้า |
กวัดแกว่งพระขรรค์อันศักดา |
ชี้หน้าแล้วร้องประกาศไป |
ว่าเหวยดูก่อนทศพักตร์ |
ฮึกฮักโอหังหยาบใหญ่ |
จะสู้องค์ประตรีภูวไนย |
เหตุใดไม่ออกมาต่อกร |
มาลอบทำการเช่นนี้
|
หรือยักษีมึงกลัวพระแสงศร |
บัดนี้พระนารายณ์ฤทธิรอน |
ภูธรตรัสใช้ให้กูมา |
ประหารเสี่ยงสับเศียรมึง |
ซึ่งทำทุจริตอิจฉา |
ในที่ท่ามกลางพารา |
ให้สมน้ำหน้าอ้ายอัปรีย์ |
เมื่อนั้น |
ทศเศียรสุริย์วงศ์ยักษี |
เห็นน้องประยาพาลี |
มากล่าววาทีชาญฉกรรจ์ |
พิโรธโกรธกริ้วกระทืบบาท |
ร้องตวาดดั่งเสียงฟ้าลั่น |
เหม่อ้ายสุครีพอาธรรม์ |
มึงนี้โมหันธ์ฉันทา |
ยกยอมนุษย์ไม่มีอาย |
ว่าเป็นนารายณ์นาถา |
อย่าพักอ้างอวดอหังการ |
ใช่ว่าจะเกรงฤทธิไกร |
ฆ่าได้แต่อ้ายพาลี |
กูนี้หาเหมือนกระนั้นไม่ |
ซึ่งมึงเย่อหยิ่งจะชิงชัย |
ที่ไหนจะรอดชีวัน |
อ่านหน้าที่
๔ |
|
|
|