บัดนั้น |
สุครีพลูกพระสุริย์ฉัน |
ได้ฟังจึ่งตอบกุมภัณฑ์ |
เหวยทศกัณฐ์ยี่สิบกร |
มึงอย่าอ้างอวดฤทธิรงค์ |
จะต่อด้วยองค์พระทรงศร |
แต่กูทหารจะราญรอน |
ไม่ให้ร้อนถึงองค์พระทรงครุฑ |
ว่าแล้วกระทืบบาทา |
ดั่งลงกาจะล่มจมสมุทร |
แกว่งพระขรรค์ชัยวัยวุฒิ |
ทะยานยุดขึ้นฉัตรอสุรี |
บัดนั้น |
ฝ่ายนางกำนัลยักษี |
เห็นวานรโรมรุกคลุกคลี |
ตกใจวิ่งหนีพัลวัน |
บ้างล้มลุกวุ่นวายตะกายมา |
หลับตาหน้าซีดตัวสั่น |
บ้างตกบ้างกอดทศกัณฐ์ |
บ้างห้อยหันตามกงฉัตรชัย |
ร้องกรีดหวีดอึงคะนึ่งมี่ |
จะเอาสมประดีก็ไม่ได้ |
แขนหักขาหักวุ่นไป |
ร้องไห้เรียกกับเป็นโกลา |
เมื่อนั้น
|
ทศเศียรสุริย์วงศ์ยักษา |
ไม่รู้ที่จะต่อฤทธา |
ผู้เดียวพะว้าพะวังใจ |
เวียนวงไปตามกงฉัตร |
หลีกลัดมิให้เข้าใกล้ |
กรหนึ่งกอดนางมณโฑไว้ |
กรสองคว้าได้นางอัคคี |
ลิบเจ็ดกรอุ้มฝูงนางกำนัล |
กรหนึ่งแกว่งพระขรรค์ชัยศรี |
ขัดขวางทางที่จะต่อตี |
อสุรีถอยรับวานร |
บัดนั้น
|
พระยาสุครีพชาญสมร |
เห็นยักษาถอยท้อไม่ต่อกร |
วานรโรมรุกบุกบัน |
เท้าขวาถีบต้องทศพักตร์ |
ขุนยักษ์ซวนเซเหหัน |
ก้าวสกัดลัดไล่พัลวัน |
ติดพันไม่ห่างอสุรา |
ทำทีประหนึ่งจะจู่โจม |
ชิงโฉมมณโฑเสน่หา |
เข้าใกล้คว้าไขว่ไปมา |
สรวลร่าเยาะเย้ยอสุรี |
อ่านหน้าที่
๕ |
|
|
|